เรื่อง : อูน

               อินเตอร์เน็ตไม่เคยลืม หนุ่มสาวคนไหนก็ตามที่เข้าไปทำอะไรพลาดในนั้น มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของใครๆ ได้ ตอนนี้สทอลเกอร์ หรือ “นักส่อง” มือโปรคนหนึ่งจากเนเธอร์แลนด์ส กำลังเข้าสู่กระบวนการไต่สวนคดีของศาล จากความผิดคดีบังคับข่มขู่เด็กสาวแคนาเดียนคนหนึ่ง ส่งผลให้เธอฆ่าตัวตายในปี 2012

                ช่วงที่ อะแมนดา ท็อดด์ ตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตไปตลอดนั้น กินเวลาเพียงไม่กี่วินาที – เหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 2009 ในบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา อะแมนดาเรียนอยู่เกรด 7 เธอชอบเล่นวิดีโอแช็ตตามประสาวัยรุ่น ชอบร้องเพลงเต้นรำต่อหน้าเว็บแคม เพื่อเรียกร้องความสนใจและการยอมรับจากใครอื่นเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป แต่มีคู่แช็ตคนหนึ่งเรียกร้องให้เธอโชว์หน้าอก อะแมนดาถลกเสื้อขึ้นสูง แค่ชั่วกะพริบตาเท่านั้น ทว่าคู่สนทนาบันทึกภาพสกรีนช็อตไว้ อีกเดือนต่อมาเธอก็ได้รับข้อความที่ส่งจากคนแปลกหน้า ข่มขู่เธอด้วยภาพเปลือยเต้านมของเธอ ความทุกข์ทรมานใจของเธอจึงเริ่มขึ้นนับจากนั้น

                3 ปีถัดมา อะแมนดาหวนกลับมาเล่นเว็บแคมอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอไม่ร้องเพลงหรือเต้นรำ เธอนั่งนิ่งเงียบที่หน้ากล้อง ฉากหลังเป็นผนังห้องสีขาว ในมือเธอมีแผ่นข้อความเขียนด้วยลายมือ บอกเล่าความทุกข์ทรมาน “ที่ไม่รู้จบสิ้น” ของเธอ

                “ถ้าเธอไม่ถอดเสื้อผ้าโชว์ให้ฉันดู ฉันจะส่งภาพเต้านมของเธอไปให้ทุกคนดู” คู่แช็ตในอดีตข่มขู่ เขารู้จักที่อยู่ ชื่อของเพื่อนๆ ที่โรงเรียน และคนรู้จักของเธอ เขาส่งภาพนั้นไปให้ทุกคนดูจริงๆ อะแมนดาเขียนเล่าว่าเธอถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนล้อเลียน กลายเป็นคนแปลกแยกเพราะถูกใครบางคนทำลายชีวิตของเธอ

                เธอรู้สึกกดดัน หวาดระแวง และกลัวสังคม แม้เธอจะย้ายหนี แต่สทอลเกอร์คนนั้นก็กระจายเรื่องฉาวไปที่โรงเรียนแห่งใหม่ของเธอ “ฉันเอาภาพนั้นคืนมาไม่ได้ มันอยู่ที่ไหนสักแห่งข้างนอกนั่นตลอดกาล” เธอเขียนบรรยายลงในแผ่นกระดาษแสดงในวิดีโอ เธอเปลี่ยนโรงเรียนใหม่อีกครั้ง ทว่าภาพนั้นก็ตามไปหลอนเธออีกจนได้ เธอถูกล้อเลียน เป็นตัวตลกในสายตาของเพื่อนร่วมโรงเรียน

                ในสารคดีของ CBC มีภาพแม่ของอะแมนดาขณะอ่านข้อความที่คนข่มขู่เขียนถึงลูกสาวของเธอในเฟซบุ๊ก “ฉันคือคนที่ทำให้เธอต้องเปลี่ยนโรงเรียนบ่อยๆ ไง” และ “โชว์ให้ฉันดูอีก 3 ครั้ง แล้วฉันจะหายไปจากชีวิตเธอตลอดไป เธอก็รู้ ฉันไม่หยุดง่ายๆ หรอก”

อะแมนดา ท็อดด์ : การกลุ้มรุมในโลกโซเซียลและในโรงเรียน

                ที่โรงเรียนแห่งใหม่ มีเพื่อนนักเรียนชายคนหนึ่งแสดงท่าทีสนใจอะแมนดา เธอบรรยายในวิดีโอ เธอแสดงท่าทีตอบว่าสนใจเขา “ฉันคิดเอาเองว่าเขาชอบฉัน” แต่มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด แถมแฟนสาวของเขาเมื่อรู้เข้าก็ด่าว่า และตบตีอะแมนดาต่อหน้าเพื่อนๆ ในชั้นเรียน

                อะแมนดาเขียนเล่าถึงครั้งนั้นว่า เมื่อเธอกลับถึงบ้านแล้ว เธอพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกินผงฟอกขาว แต่ทว่ารถพยาบาลฉุกเฉินมาทันเวลา

                เมื่อเธอเข้าไปในดูเฟซบุ๊กหลังเหตุการณ์พยายามฆ่าตัวตายของตนเอง เธอก็พบคอมเมนต์ของเพื่อนบางคนในชั้นเรียน “สมควรแล้วละ” และ “ฉันหวังว่าเธอคงจะตายสมใจนะ” อะแมนดาย้ายหนีอีกครั้ง แต่เธอก็หนีไม่พ้นการถูกรุมด่าหรือล้อเลียน “ถ้าเธอย้ายไปโรงเรียนใหม่อีกเมื่อไหร่ ฉันก็จะตามเธอไปด้วยทุกที่” สทอลเกอร์คนเดิมข่มขู่ วิดีโอของอะแมนดาที่เผยแพร่ในยูทูบจบลงด้วยประโยค “ฉันไม่เหลือใคร ฉันต้องการความช่วยเหลือ ชื่อของฉันคือ อะแมนดา ท็อดด์” หนึ่งเดือนถัดจากนั้นเธอก็ฆ่าตัวตาย

 

นักข่มขู่ขึ้นศาลที่เนเธอร์แลนด์ส

                ปี 2012 คดีของอะแมนดา ท็อดด์เป็นที่รับรู้กันทั่วโลก และกลายเป็นแสงส่องให้เห็นการรุมทำร้ายกันในโลกไซเบอร์ในกลุ่มเด็กนักเรียน วันนี้-ห้าปีผ่านมาแล้ว-สทอลเกอร์นักข่มขู่กำลังถูกลงทัณฑ์จากการกระทำผิด ไอย์ดีน ซี. หนุ่มวัย 38 ปี กระทำการข่มขู่อะแมนดาและเด็กสาววัยรุ่นอีกนับสิบคนจนต้องมีชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน หลักฐานต่างๆ ในเฟซบุ๊กช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามร่องรอยของคนร้ายในปี 2014 เหยื่อของเขาอยู่ในที่ต่างกัน ทั้งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ และแคนาดา

                ความผิดทางคอมพิวเตอร์และการข่มขู่ส่งผลให้เขาถูกตัดสินโทษจำคุกสูงสุด 11 ปี จากสำนวนฟ้องระบุว่า จำเลยได้กระทำการข่มขู่ด้วยภาพและบังคับให้เหยื่อมีเพศสัมพันธ์ทางเว็บแคม หลักฐานจากข้อความแช็ตระบุว่าจำเลยรบเร้าให้เด็กในวัยเยาว์เปลื้องผ้าให้เขาดู เด็กในวัยเยาว์นั้นประกอบด้วยเด็กสาว 34 คน และเกย์อีก 5 คน อย่างในกรณีของอะแมนดา เขาหลอกล่อกระทั่งได้ภาพถ่ายที่ต้องการแล้ว เขาก็จะสืบค้นข้อมูลส่วนตัว จากนั้นทำการข่มขู่ว่าจะส่งภาพไปให้เพื่อนๆ และสมาชิกในครอบครัวของเหยื่อดู หากว่าเหยื่อไม่เชื่อฟังและปฏิบัติตามในสิ่งที่เขาต้องการ

 

คดีเดินทางถึงแคนาดา

                ภายในห้องพิพากษาที่อัมสเตอร์มีแม่ของอะแมนดาร่วมนั่งฟังอยู่ด้วย “ฉันหวังว่าบทลงโทษครั้งนี้คงจะช่วยเยียวยารักษาแผลของคนที่ตกเป็นเหยื่อได้” เธอบอก “มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก สำหรับเราทุกคนในการแสวงหาความยุติธรรมให้กับอะแมนดา” และเธอยังหวังอีกว่า อีกไม่ช้าเธอจะได้รับความยุติธรรมอีกครั้งในแคนาดา ไอย์ดีน ซี.จะถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังแคนาดา

                เพื่อขึ้นศาลในคดีความผิดอันเป็นเหตุให้อะแมนดา ท็อดด์ต้องเสียชีวิต

Facebook Comments Box