รีสอร์ตหรูกลางทะเลใต้ ปลายทางฮันนีมูนของ ‘พิปพา มิดเดิลตัน’ และ ‘เจมส์ แม็ตธิวส์’

เรื่อง : อูน

เกาะที่ล้อมรอบด้วยปะการังในทะเลใต้ เคยเป็นถิ่นพักอาศัยของนักแสดงอย่าง มาร์ลอน แบรนโด หลังจากถอนตัวออกจากวงการบันเทิง 10 ปีหลังจากที่เขาเสียชีวิต บนเกาะโอเนตาฮิก็เริ่มมีรีสอร์ตหรูซึ่งใช้ชื่อของเขาเปิดให้บริการ ที่แห่งนั้นเองคือจุดหมายปลายทางของคู่บ่าว-สาว พิปพา มิดเดิลตัน และเจมส์ แม็ตธิวส์ สำหรับการฉลองสัปดาห์หลังสมรส

ทุกคนสามารถเข้าใจมาร์ลอน แบรนโดได้ ถ้านั่งที่ริมชายหาดและเพ่งสายตามองไปในมหาสมุทรแปซิฟิก พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ อยู่ในมือ ลมอ่อนพัดผ่านทางมะพร้าว บางคราวมีเสียงร้องของนกนางนวลที่ขยับปีกบินผ่าน มีกลิ่นหอมของดอกไม้ลอยให้ได้กลิ่นจางๆ นอกนั้นไม่มีอะไรเลย ไม่มีความเครียด ไม่มีเรื่องทุกข์กังวลใดๆ

เกาะปะการังเตติอารัว ใกล้ตาฮิติ เป็นหนึ่งในจำนวน 13 เกาะ รีสอร์ต The Brando ตั้งอยู่บนเกาะโอเนตาฮิ

กว่า 50 ปีมาแล้วที่แบรนโดมีโอกาสมาค้นพบความสุขสงบบนเกาะเตติอารัว ที่ล้อมรอบด้วยปะการัง ใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบินประมาณ 20 นาทีจากปาเปเอเต เมืองหลวงของตาฮิติ ประเทศซึ่งประกอบด้วย 13 เกาะ เตติอารัวมีพื้นที่เกาะขนาด 6 ตารางเมตร ในอดีตเคยอยู่ในความครอบครองของราชวงศ์ตาฮิติ ทุกวันนี้ยังมีทัศนียภาพงดงามราวกับภาพโฆษณา ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสด น้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ หาดทรายขาวสว่าง

เมื่อต้นทศวรรษ’ 60 มาร์ลอน แบรนโดเคยมาถ่ายทำหนังเรื่อง ‘Mutiny on the Bounty’ และเกิดตกหลุมรัก ทาริตา ทูมิ เตริอิปาเอีย ที่ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ ถึงกับฝากหัวใจไว้กับเกาะปะการังเตติอารัว เขามีทายาทกับนักระบำและนักแสดงสาวโพลีนิเซียน 2 คน ชื่อ ไซมอน เตอิโฮตู และทาริตา เชเยนน์ ในปี 1966 เขาลงทุนเช่าเกาะปะการังแห่งนี้ระยะเวลา 99 ปี

เรือแคนูแบบโพลีนีเซียนในทะเล

แต่ละปีแบรนโดใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านของเขาในมัลฮอลแลนด์ ไดรฟ นครลอส แองเจลีส แต่ระหว่างทำงานแสดงเขามักแวะไปเยือนเตติอารัวคราวละเดือน-สองเดือน เพื่อหลบหลีกจากสังคมฮอลลีวู้ด ที่เกาะแบรนโดค้นพบความสงบ โลกที่ยังบริสุทธิ์ แม้ว่าจะมียุงเยอะและไม่มีเครื่องปรับอากาศก็ตาม

เขามีความฝันอยู่ตลอดเวลาเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากวงการเพื่อมาใช้ชีวิตอย่างที่ฝัน และยังแบ่งปันความสุขบนเกาะแห่งนี้กับผู้คนที่เขารักใคร่ เพื่อนสนิทอย่างควินซี โจนส์และโรเบิร์ต เดอ นีโรเคยเดินทางไปเยี่ยมบ้านหลังเรียบง่ายของเขาบนเกาะบ่อยครั้ง แบรนโดเคยมีความคิดที่จะทำให้เกาะแห่งนี้เป็นที่พบปะระหว่างนักเขียน นักคิด ศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ และชาวบ้านท้องถิ่น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

ทูมิ หลานสาวของมาร์ลอน แบรนโด ทำงานเป็นไกด์ให้กับรีสอร์ต The Brando

ความหรูหราสีเขียว

แต่ครอบครัวในอุดมคติของแบรนโดก็เป็นไปไม่ยั่งยืน ความรักที่เขามีต่อเตริอิปาเอียสิ้นสุดลง ต้นทศวรรษ’ 90 คริสเตียน-ลูกชายคนโตจากภรรยาคนเก่าของแบรนโด ลงมือฆ่าแฟนหนุ่มของทาริตา เชเยนน์-น้องสาวต่างมารดา เป็นเหตุให้เกิดความบาดหมางขึ้นในครอบครัว หลังจากนั้นแบรนโดก็ไม่หวนกลับไปที่เกาะปะการังอีกเลย ตราบจนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวันที่ 1 กรกฎาคม 2004 เถ้าอัฐิของเขาถูกนำไปโปรยในทะเลแถบชายฝั่งของเกาะ

10 ปีหลังความตายของแบรนโด บริษัทแปซิฟิก บีชคอมเบอร์ส ด้วยความช่วยเหลือของทายาทนักแสดง ก็สร้างรีสอร์ตอีโคระดับหรู ตั้งชื่อว่า The Brando ขึ้นบนเกาะโอเนตาฮิ เป็นวิลล่าไม้สักหลังคามุงฟางพร้อมสระว่ายน้ำจำนวน 35 หลัง รองรับลูกค้าได้ไม่เกิน 90 คน ภายในรีสอร์ตยังมีสปา บูติก บาร์และห้องอาหารอีกอย่าง 2 แห่ง วัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารล้วนมาจากสวนครัวของรีสอร์ต มีการวางระบบนิเวศให้เหมาะสมกับสถานที่ เครื่องปรับอากาศทำงานอย่างเป็นมิตรกับน้ำทะเล มีการติดตั้งโซลาเซลล์และเครื่องปั่นไฟระบบชีววิทยาเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า

ห้องอาหาร Les Mutines ที่มีรูปลักษณ์คล้ายเรือ

ค่าที่พักต่อคืนตั้งแต่ 95,000 บาท และลูกค้าต้องพักค้างอย่างน้อย 3 คืน เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง แขกที่เข้าพักสามารถเล่นน้ำหรือดำน้ำโดยไม่มีใครรบกวน จะขี่จักรยานเที่ยวชมสวนป่า จะพายเรือในอ่าว หรือจะเดินเล่นที่ชายหาดบริเวณเวสต์ เทอร์เทิล บีช และเซาธ์ เมอร์เมด เบย์ที่สวยงามก็ได้

ใกล้กันกับโอเนตาฮิยังมีเกาะอีก 2 เกาะที่สามารถไปเยี่ยมชมได้ นั่นคือ โอรัวเตรา เกาะรูปม้าน้ำที่มีทะเลอยู่ตรงใจกลาง และเรอิโอโน เกาะรูปปูขนาดยักษ์ที่มีนกสีสันแปลกตา ยามค่ำคืนในบางฤดูกาลจะมีเต่ายักษ์คืบคลานเชื่องช้าจากทะเลขึ้นมาวางไข่ที่บริเวณชายหาด

มาร์ลอน แบรนโด และทาริตา ทูมิ เตริอิปาเอีย ในหนังเรื่อง ‘Mutiny on the Bounty’

ทายาทของแบรนโดทำหน้าที่เป็นไกด์

นอกจากนั้นยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เจอกับทายาทของมาร์ลอน แบรนโดบนเกาะเตติอารัว ไซมอน เตอิโฮตู-ลูกชายของแบรนโด ซึ่งเติบโตที่เกาะโอเนตาฮิ ทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ และทูมิ ลูกสาวของเขาก็ทำงานเป็นไกด์ให้กับรีสอร์ต The Brando เธอเป็นหัวหน้าคณะพาแขกของรีสอร์ตไปดำน้ำ ดูสัตว์และพืชใต้ท้องทะเลรอบเกาะปะการัง

“ตอนเป็นเด็กฉันมักจะมาที่เตติอารัวทุกครั้งที่ปิดเทอม” ทูมิ แบรนโดเล่า “ฉันเลยคุ้นเคยกับที่นี่ทุกซอกทุกมุม” แต่กับปู่นักแสดงผู้มีชื่อเสียง เธอกลับไม่คุ้นชิน “ตอนปู่เสียชีวิต ฉันอายุเพิ่ง 15 ปู่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านในลอส แองเจลีส แทบไม่ไปไหนเลย”

แต่เธอก็จำภาพมาร์ลอน แบรนโดผู้เป็นปู่ได้จากหนังเรื่อง ‘Mutiny on the Bounty’ ได้ดี “เวลาฉันดูหนังเรื่องนี้ เห็นฉากที่ปู่ร่ำลาย่าทีไร ทำให้ฉันสะกิดใจทุกครั้ง ว่าปู่ต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนที่ต้องช่วงชิงเกาะปะการังนี้ให้กับย่า” หลานสาววัย 26 ปีของแบรนโดบอก