เรื่อง : แจนยูอารี

งวดเข้ามาทุกขณะแล้ว “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 45” และ “งานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 15” (วันที่ 29 มีนาคม-9 เมษายน 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์) ที่เหล่านักอ่านตัวยงพร้อมจะจ่ายหนักเพื่อแลกกับหนังสือที่ตัวเองเฝ้ารอ (ลดราคา) มานาน แต่ก่อนจะถึงวันจริง เราขอเรียกน้ำย่อยด้วยเล่มโปรดของคนดัง ว่ามีเล่มใดอยู่ในใจพวกเขากันบ้าง (เผื่อว่าแฟนๆ จะยังตามไปซื้อได้ทัน)

ฟลุ๊ค-จิระ ด่านบวรเกียรติ

1.ฟลุ๊ค-จิระ ด่านบวรเกียรติ (นักแสดง) 
ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน (เขียน : T. Harv Eker /แปลและเรียบเรียง : พูนลาภ อุทัยเลิศอรุณ-บุญศรี ศรีบุญรัตนชัย)

               “เป็นอาหารสมองที่ดีเล่มหนึ่งเลยครับ เพราะเขาสอดแทรกสาระและความสนุก ไม่น่าเบื่อหรือเป็นวิชาการจนเกินไป สิ่งที่ผมชอบคือ การรู้จักเปลี่ยนแปลง ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม คุณต้องรู้จักปล่อยวางวิธีคิดและการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ กล้าที่จะเปลี่ยน แล้วความสำเร็จหรือผลลัพธ์ที่คุณต้องการจะสำเร็จ ผมสะดุดใจตรงที่เขาเปลี่ยนจากคนถังแตกมาเป็นเศรษฐีร้อยล้านได้ในเวลา 2 ปีครึ่ง แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนธรรมดา คนรวยคิดการใหญ่ คนธรรมดาคิดการเล็ก หรือคนรวยทุ่มเทเพื่อรวย คนธรรมดาก็แค่อยากรวย ผมว่าเล่มนี้ทำให้ผมได้เห็นวิธีคิดที่น่าสนใจทีเดียว”

อ้น-สราวุธ มาตรทอง

2.อ้น-สราวุธ มาตรทอง (นักแสดง)
Siddhartha (เขียน : Hermann Hesse /แปล : สดใส) 

               “มีคนแนะนำผมให้อ่านครับ เขาบอกว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะเหมาะกับผม ผมก็เลยลองอ่าน เนื้อหาพูดถึงผู้ชายสองคนที่ต้องการเดินทางไปหาพระพุทธเจ้า โดยวิถีทางคนละแบบ คนหนึ่งออกบวชเพื่อหวังจะเจอกับพระพุทธเจ้า อีกคนไม่ได้ออกบวช แต่ใช้ชีวิตตามปกติ สุดท้ายทั้งคู่ก็เจอกับพระพุทธเจ้า เพียงแต่เลือกเดินคนละทางและย่างก้าวคนละแบบ ผมอ่านเรื่องนี้แล้วมีคำถามสองอย่างในหัว หนึ่ง-พระพุทธเจ้าคือใคร สอง-คำสอนของพระพุทธเจ้าคืออะไร อ่านแล้วได้ข้อคิดเยอะมากครับ พระพุทธเจ้าสอนกระทั่งเวลาพระองค์อยู่เงียบๆ เช่นกันครับ ในหลวงก็ทรงสอนเราด้วยการกระทำ ผมว่าสิ่งสำคัญของมนุษย์คือไม่ต้องรอฟังถึงจะเรียนรู้ แต่จงสังเกตและพิจารณา คุณก็สามารถเรียนรู้ชีวิตได้”

หนุ่ม-คงกะพัน แสงสุริยะ

3.หนุ่ม-คงกะพัน แสงสุริยะ (พิธีกร)
เชือกกล้วยมัดต้นกล้วย (เขียน : ประภาส ชลศรานนท์)

               “ส่วนตัวผมชอบอ่านงานของพี่จิก (ประภาส ชลศรานนท์) ชอบเป็นการส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้อ่านทุกเล่มหรอกครับ เล่มนี้ที่ผมชอบเพราะพี่จิกเปรียบเทียบได้ดีถึงเชือกกล้วยที่นำมามัดต้นกล้วย เรื่องมีอยู่ว่า มีคนหวงต้นกล้วยมาก ใครไปตัดใบตอง ใครไปทำอะไรกับต้นกล้วยไม่ได้เลย วันหนึ่งมีพายุพัดจนต้นกล้วยต้นนั้นล้ม เจ้าของก็ใช้วิธีลอกเปลือกต้นกล้วย เพื่อทำเป็นเชือกกล้วย แล้วเอามามัดต้นกล้วยที่โดนพายุมัดรวมกัน มันก็กลับมามีชีวิตต่อได้ ผมว่ามันค่อนข้างล้ำลึกนะ เป็นปรัชญาที่สอนเรื่องใกล้ๆ ตัว เรื่องนี้สอนเรื่องตัวคุณนั่นแหละที่จะต้องพึ่งตัวคุณ ความคิดคุณเองนั่นแหละที่เป็นพิษที่สุดในโลก เมื่อไหร่คุณกลัว หวั่นวิตก หวาดระแวง ทุกข์หรือสุข ก็ตัวคุณใจคุณ ไม่ใช่คนอื่นทำ ผมอ่านแล้วทึ่งเลยครับ”

โบ๊ท The Yers -นิธิศ วารายานนท์

4.โบ๊ท The Yers -นิธิศ วารายานนท์ (นักดนตรี-นักแสดง) 
Catch Me If You Can (เขียน : Frank W. Abagnale /แปล : โรจนา นาเจริญ)

               “ผมเป็นแฟนหนังเรื่องนี้ก่อนครับ ชอบหนังเรื่องนี้มากๆ สนุกและชวนให้ลุ้นตลอดเวลา พอดูหนังจบ ผมก็อยากอ่านหนังสือ ไปเจอที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่ง ก็ซื้อเลย โห! สนุกมาก สนุกกว่าในหนังซะอีก ชอบตัวละคร ชอบพล็อต มันดูฉลาดแกมโกงยังไงไม่รู้ ปกติผมไม่ใช่คนอ่านหนังสือเร็วครับ ค่อนข้างจะช้าด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ใช่เล่มที่อยากอ่านก็อาจจะอ่านไม่จบ แต่เล่มนี้ถือว่าไวครับ เพราะมันสนุก วางไม่ลง ได้ลุ้น อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก อ่านจบแล้วอยากเป็น อยากฉลาด อยากทันคน อยากเก่งเหมือนพระเอก อยากเป็นนักบิน อยากเป็นทนาย อยากเป็นหมอ หนังสือเล่มนี้เปลี่ยนผมเยอะนะครับ อย่างเรื่องมาดเห็นชัดเลย ผมว่าผมได้จากหนังสือและพระเอกเรื่องนี้ ก็ไม่ถึงขั้นถอดแบบหรอกครับ แต่มันก็ทำให้ผมต้องมีมาด วางมาด เพื่อให้ตัวเองดูดี เพื่อให้คนข้างๆ ยอมรับ รู้จักที่จะแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้มากขึ้น อย่างเล่นดนตรี จริงๆ ผมเล่นไม่เก่งหรอกครับ แต่ผมพยายามจะทำเพอร์ฟอร์แมนซ์ให้ออกมาดูดีน่ามอง เรียกว่าข่มคนอื่นด้วยมาดนั่นแหละครับ”

แบม-ปีติภัทร คูตระกูล

5.แบม-ปีติภัทร คูตระกูล (ดีเจ-พิธีกร)
Steve Jobs (เขียน : Walter Isaacson)

               “ส่วนตัวชอบสตีฟ จ็อบส์อยู่แล้วครับ ชอบในความเก่งของเขา เขาทำให้โลกทึ่งในหลายเรื่องๆ โดยเฉพาะวงการไอที เขาคือคนที่ทำให้โลกเปลี่ยน และเป็นคนที่เปลี่ยนโลกไปอย่างสิ้นเชิง ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญที่มีวิสัยทัศน์น่าศึกษามากๆ ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นหนังสือที่พูดแต่เรื่องการบริหารคน หรือบริหารองค์กร แต่พอได้อ่านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ วอลเตอร์ ไอแซคสัน-คนเขียนมีมุมมองที่หลากหลาย แค่ประวัติของเขาก็น่าสนใจแล้วละครับ อ่านแล้วได้กำลังใจ ได้แรงบันดาลใจ ได้ข้อคิดดีๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ หรือต่อยอดชีวิตของผมได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน แม้แต่การทำงานเป็นทีม การปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน หรือการทำกิจกรรมส่วนรวม ผมว่าได้หมดเลยนะครับ”

คุ่น-ปราบดา หยุ่น

6.คุ่น-ปราบดา หยุ่น (นักเขียน-นักแปล-บรรณาธิการสำนักพิพม์)
รวมเรื่องสั้นบางเรื่องของฮิวเมอร์ริสต์ (เขียน : อบ ไชยวสุ)

               “หนังสือของครูอบ ไชยวสุ มีหลายยุคสมัย เป็นเรื่องขำขัน แต่มีความน่าสนใจพอสมควร ตรงที่ท่านมีลูกล่อลูกชน แพรวพราวด้วยภาษาไทย มีลีลาที่ชวนอ่าน สนุกกับเนื้อเรื่อง แถมยังสนุกกับภาษา โดยเฉพาะการนำภาษาไทยมาเล่าและเล่นในสไตล์ขำขัน ซึ่งหลายๆ เล่มที่ท่านใช้นามปากกานี้ค่อนข้างมีความโดดเด่นมาก ผมถือว่างานเขียนของท่านเป็นต้นแบบที่ทำให้ผมสนใจเรื่องการใช้ภาษาไทยในงานเขียนของผมด้วยครับ”

เต๋า-ภูศิลป์ วารินรักษ์

7.เต๋า-ภูศิลป์ วารินรักษ์ (นักร้อง-นักแสดง) 
สี่แผ่นดิน (เขียน : ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช)

              “ผมอ่านหนังสือเล่มนี้หลายรอบครับ ชอบเพราะเป็นเรื่องของคนไทย เป็นนิยายที่บอกผ่านตัวละครและฉากหลังสมัยอดีตในแต่ละยุคสมัย เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความเป็นไปเป็นมาของสังคมไทย จากอดีตและส่งต่อมาถึงคนยุคนี้ได้อย่างลงตัว เนื้อหาน่าสนใจมาก แม้ว่าจะผ่านมาหลายยุคสมัยแล้ว แต่เรื่องราวก็ยังเหมาะกับคนยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเรื่องวัฒนธรรม การเมือง สภาพสังคม ทั้งหมดล้วนแต่สะท้อนถึงรากเหง้าความเป็นไทยและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการก้าวข้ามทางวัฒนธรรม”

ไมค์-ณกรณ์ จำปาดิบ

8.ไมค์-ณกรณ์ จำปาดิบ (นักแสดง)
Present Perfect เพราะวันนี้…ดีที่สุดแล้ว (เขียน : ฌอห์ณ จินดาโชติ)

               “ตอนแรกผมหยิบมาเปิดดูรูปก่อน เพราะผมชอบถ่ายภาพอยู่แล้ว เนื้อหานี่ยังไม่ได้อ่าน เห็นรูปสวยก็ตัดสินใจซื้อ พอมีโอกาสเปิดอ่านเนื้อหา กลายเป็นว่าชอบทั้งรูปและเนื้อหาครับ ในหนังสือเล่มนี้มีหลายแง่มุมน่าสนใจ เช่น เรื่องเงินทองที่เราใช้ตอนนี้ก็แค่เพื่อความอยู่รอด เพราะสุดท้ายพอตายไปก็เอาไปไม่ได้ สิ่งที่เอาไปได้คือความดี ฉะนั้นต้องทำดีเยอะๆ ไม่ใช่การสะสมเงินทองมากๆ ผมชอบอีกอย่าง คือ การสอนเรื่องคิดบวก เราสามารถคิดลบได้บางเรื่องเพื่อเป็นเกราะคุ้มครองตัวเอง แต่ถ้าเราคิดลบมากไปก็จะส่งผลร้ายต่อตัวเอง วันไหนตื่นขึ้นมาหน้าตาบึ้ง วันนั้นชีวิตก็จะบึ้งทั้งวัน ถ้าวันไหนเราตื่นขึ้นมาด้วยความสดใสมีความสุข วันนั้นชีวิตก็จะเจอแต่ความสุข อันนี้จริงๆ นะครับ”

เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์

9.เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ (ผู้กำกับ-นักเขียนบทภาพยนตร์)
ดีไซน์+คัลเจอร์ (เขียน : ประชา สุวีรานนท์)

               “ออกมาเป็นซีรีส์ 1, 2, 3, สอนให้เราอ่านเรื่องวิฌวล สิ่งที่อาจารย์ประชาเขียนค่อนข้างมีเหตุมีผล ไม่ได้รู้สึกว่ามันเพ้อ หรือเป็นนามธรรมมากเกินไป ทุกอย่างเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์และบริบทวัฒนธรรมแต่ละที่ อย่างเช่น ป้ายหรือโฆษณา ทำไมเขาต้องทำแบบนั้นแบบนี้ ผมว่าเราอยู่ในยุควิฌวล มีป้ายเต็มไปหมด อยู่กับยูทูบ อยู่กับมีเดียต่างๆ เราต้องทันประมาณหนึ่ง ไม่งั้นเราจะถูกหลอกได้ ทำไมขวดน้ำถึงเป็นทรงนี้ ทำไมไม่เป็นทรงอื่น มันมีวิธีคิดแบบไหนมาจากอะไร อ่านแล้วก็ทำให้ผมทันโลกวิฌวลขึ้นมานิดหนึ่ง (หัวเราะ) ซึ่งเนื้อหาก็สามารถเชื่อมโยงกับชีวิตจริงได้ แม้แต่ในภาพยนตร์ของผมก็มีแทรกๆ แนวคิดแบบนี้ไว้เหมือน เช่น ตัวละครเป็นคนยังไง ต้องใส่เสื้อแบบไหน ใช้ของอะไร”

เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ

10.เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ (นักแสดง-นักร้อง)
เจ้าการะเกด (เขียน : แดนอรัญ แสงทอง)

              “มีนักเขียนไม่กี่คนที่ผมตามอ่านงานเกือบทุกเล่ม หนึ่งในนั้นคือ แดนอรัญ แสงทอง ผมชอบงานของเขาหลายเล่ม อย่าง ‘เจ้าการะเกด’ ก็เป็นหนังสือที่โคตรเดือด ผมเลือกเล่มนี้เพราะผมคิดว่าเป็นหนังสืออีกเล่มของแดนอรัญที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง แต่ผมว่าเล่มนี้มันส์ดี เหมาะสำหรับคนจิตแข็ง คืองานของเขา เรารู้อยู่แล้วว่าสนุกทุกเล่ม แต่ละหน้าที่เขียนเป็นเพลงๆ หนึ่งได้เลยนะ เขาเป็นคนที่มีภาษาที่น่ากลัว คนจะบอกว่าอ่านยาก แต่สำหรับผมมันอ่านง่ายนะ แล้วในเล่มแดนอรัญบรรยายได้แบบเห็นภาพ ทำให้กลัวได้จริงๆ บอกเลยว่าต้องลองอ่านกันดูครับ มันที่สุดแล้วในโลก ผมนี่อ่านแล้ววางไม่ลงเลยครับ”

เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์

11.เจษ-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ (นักแสดง)
เรื่องเล่าจากร่างกาย (เขียน : นพ.ชัชพล เกียรติขจรธาดา)

              “ผมเพิ่งอ่านจบไปเมื่อไม่นาน ที่เลือกอ่านเล่มนี้เกิดจากความอยากรู้เลยครับ เนื้อหาในหนังสือค่อนข้างเป็นเหตุและผล และเป็นวิทยาศาสตร์หน่อย แต่พอผมอ่านแล้วเหมือนผมได้เจอความรู้ใหม่เลยครับ เช่น ผมเพิ่งรู้ว่าทุกอย่างมีครีบ ไม่ว่าจะเป็น ปลา ปีกนก หรือแขนเรา ซึ่งมันทำให้ผมตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้รู้มากๆ”

Facebook Comments Box